สแตนเลสคืออะไร ?

สแตนเลสคืออะไร ?
สแตนเลสคืออะไร ?

สเตนเลส หรือตามศัพท์บัญญัติเรียกว่า เหล็กกล้าไร้สนิม เป็นเหล็กที่มีปริมาณคาร์บอนต่ำ(น้อยกว่า 2%)ของน้ำหนัก มีส่วนผสมของโครเมียม อย่างน้อย 10.5% กำเนิดขึ้นในปี พ.ศ.1903 เมื่อนักวิทยาศาสตร์พบว่า การเติมนิเกิล โมบิดินัม ไททาเนียม ไนโอเนียม หรือโลหะอื่นแตกต่างกันไปตามชนิด ของคุณสมบัติเชิงกล และการใช้ลงในเหล็กกล้าธรรมดา ทำให้เหล็กกล้ามีความต้านทานการเกิดสนิมได้

ประเภทของสแตนเลส
แบ่งได้ 5 ชนิดหลัก

เกรด ออสเตนิติก (Austenitic) แม่เหล็ดดูดไม่ติด นอกจากส่วนผสมของโครเมียม 18%แล้ว ยังมีนิเกิลที่ช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนอีกด้วย ชนิดออสเตนิติกเป็นที่นิยมใช้อย่างกว้างขวางมากที่สุด ในบรรดาสเตนเลสด้วยกัน ส่วนออสเตนิติกที่มีโครเมียมผสมอยู่สูง 20% ถึง 25% และนิกเกิล 1%ถึง 20% จะสามารถทนการเกิดออกซิไดซ์ได้ที่อุณหภูมิสูง ซึ่งใช้ในส่วนประกอบของเตาหลอม ท่อนำความร้อน และแผ่นกันความาร้อนในเครื่องยนต์ จะเรียกว่า เหล็กกล้าไร้สนิม ชนิดทนความร้อน (Heat Resisting Steel)

เกรดเฟอร์ริติก (Ferritic) แม่เหล็กดูดติด มีส่วนผสมของคาร์บอนต่ำ และมีโครเมียมเป็นส่วนผสมหลัก คือประมาณ 13% หรือ 17%

เกรดมาร์เทนซิติก (Martensitic) แม่เหล็กดูดติด โดยทั่วไปจะมีโครเมียมผสมอยู่ 12%และมีส่วนผสมของคาร์บอนในระดับปานกลาง มักนำไปใช้ทำส้อม มีด เครื่องมือตัด และเครื่องมือวิศวกรอื่นๆ ซึ่งต้องการคุณสมบัติเด่นในด้าน การต้านทานการสึกกร่อน และ ความแข็งแรงทนทาน

เกรดดูเพล็กซ์ (Duplex) แม่เหล็กดูดติด มีโครงสร้างผสมระหว่างเฟอร์ไรต์และออสเตไนต์ มีโครเมียมผสมอยู่ประมาณ 18-28% และนิเกิล 4.5-8% เหล็กชนิดนี้มักถูกนำไปใช้งานที่มีคลอรีนสูงเพื่อป้องกันมิให้เกิดการกัดกร่อนแบบรูเข็ม (Pitting corrosion) และช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อน ที่เป็นรอยร้าวอันเนื่องมาจากแรงกดดัน (Stress corrosion cracking resistance)

เหล็กกล้าชุบแข็งแบบตกผลึก (Precipitation Hardening Steel) มีโครเมียมผสมอยู่ 17 % และมีนิเกิล ทองแดง และไนโอเบียมผสมอยู่ด้วย เนื่องจากเหล็กชนิดนี้สามารถชุบแข็งได้ในคราวเดียว จึงเหมาะสำหรับทำแกน ปั้ม หัววาล์ว และส่วนประกอบของอากาศยาน สเตนเลส สตีล ที่นิยมใช้ทั่วไปคือ ออสเตนิก และเฟอร์ริติก ซึ่งคิดเป็น 95%ของเหล็กกล้าไร้สนิม ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน

แต่ถ้าแบ่งย่อยก็จะได้มากกว่า 50 ชนิด

สแตนเลสสตีลไม่ใช่อัลลอยล์เพียงอย่างเดียว  แต่ถูกจัดอยู่ในชนิดของเหล็ก  อัลลอยล์จะมีส่วนประกอบเป็นโครเมี่ยมอย่างน้อย 10.5% ส่วนประกอบอื่นๆได้ถูกผสมเพิ่มขึ้นมาเพื่อเพิ่มการป้องกันการเกิดสนิมและการเกิดความร้อนได้ดีขึ้น เพิ่มคุณสมบัติทางกลไกและส่วนผสมใหม่ๆเข้าไป   ดังนั้นสแตนเลสจึงมีมากกว่า 50  ชนิด โดยถูกกำหนดขึ้นโดยองค์กร the American Iron and Steel Institute(AISI) การแยกชนิดของสแตนเลสโดยทั่วไปแล้วมีอยู่ 3 ข้อคือ

  1. ส่วนประกอบทางเทคนิคของโลหะ
  2. ระบบเรียงลำดับของ AISI
  3. การจัดกลุ่มเดียวกันของระบบเรียงลำดับ ได้ถูกพัฒนาโดยองค์กรของอเมริกาที่ทำหน้าที่ทดสอบแร่ธาตุ(ASTM)และองค์กรยานยนต์วิศวกรรม  โดยจะกำหนดตัวเลขให้กับโลหะและอัลลอยล์ทุกชนิด
ประเภทของอัลลอยล์

เบอร์
304 เป็นสแตนเลสสตีลพื้นฐานที่ใช้ในการตกแต่งเพื่อความสวยงาม  ชนิดนี้ง่ายต่อการขึ้นรูปและป้องกันการเกิดสนิมได้เป็นอย่างดี

เบอร์ 304L เป็นสแตนเลสสตีลเบอร์ 304 ที่ใช้คาร์บอนเป็นส่วนประกอบน้อยลงมา  ใช้ในงานการเชื่อมอย่างกว้างขวาง

เบอร์ 316 ถูกออกแบบให้มาป้องกันการเกิดสนิมได้เป็นอย่างดี  ถูกใช้ในงานอุตสาหกรรมหนักและสถานที่ใกล้ทะเล

เบอร์ 316L เป็นสแตนเลสสตีลเบอร์ 316 ที่มีส่วนประกอบของคาร์บอนน้อยลงมา

เบอร์ 430 เป็นสแตนเลสสตีลที่ใช้โครเมี่ยมเป็นส่วนประกอบ 100% และมีโอกาสเกิดสนิมน้อยกว่าเบอร์300  พวกนี้นิยมใช้ตกแต่งภายใน

                      ดูลักษณะภายนอกของสแตนเลสแล้วเกือบทุกเกรดล้วนคล้ายคลึงทั้งนี้แล้วยังมีสแตนเลสเกรดต่ำที่มีโอกาสของการขึ้นสนิมได้สูงอีกเช่นสแตนเลสเบอร์201เป็นต้น  ดังนั้นควรที่จะเลือกซื้กับร้านค้าที่ไว้วางใจได้นะครับ

คุณสมบัติทั่วไป และ คุณสมบัติทางกายภาพ

คุณสมบัติทางกายภาพของสเตนเลส เมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุประเภทอื่น ค่าที่แสดงในตารางที่1 เป็นเพียงค่าประมาณ เนื่องจากการเปรียบเทียบทำได้ยาก ค่าความหนาแน่นสูงของสเตนเลสแตกต่างจากวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ในส่วนของคุณสมบัติเกี่ยวกับความร้อนความสามารถ ทนความร้อนของสเตนเลส มีข้อสังเกต 3 ประการคือ

          1. การที่มีจุดหลอมเหลวสูง ทำให้มีอัตราความคืบดี เมื่อเทียบกับเซรามิกที่อุณหภูมิต่ำกว่า 1000 องศา C

          2. การที่มีค่านำความร้อนระดับปานกลาง ทำให้สเตนเลสเหมาะที่จะใช้ในงานที่ต้องทนความร้อน (คอนเทนเนอร์) หรือต้องการคุณสมบัตินำความร้อนได้ดี (เครื่องถ่ายความร้อน)

          3. การมีค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวระดับปานกลาง จึงสามารถใช้ความยาวมากๆได้ โดยใช้ตัวเชื่อมน้อย (เช่น ในการทำหลังคา)

คุณสมบัติ เชิงกล

สเตนเลสโดยทั่วไปจะมีส่วนผสมของเหล็กประมาณ 70-80% จึงทำให้มีคุณสมบัติของเหล็กที่สำคัญ 2 ประการคือ ความแข็งและความแกร่ง ในตารางที่ 2นี้ เป็นการเปรียบเทียบคุณสมบัติเชิงกลกับวัสดุชนิดอื่น จะเห็นได้ว่าพลาสติกซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางมีความแข็งแรง และโมดูลัส ความยืดหยุ่นต่ำ ส่วนเซรามิกมีความแข็งแรงและความเหนียวสูงแต่มีความแกร่งหรือความสามารถรับแรงกระแทกโดยไม่แตกหักต่ำ สเตนเลสให้ค่า ที่เป็นกลางของทั้งความแข็ง ความแกร่ง และความเหนียว เรนื่องจากมีส่วนผสมของธาตุเหล็กอยุ่มาก และจะมีเพิ่มขึ้นอีกในชนิดออสเตนิติก และตารางที่ 3 จะแสดงให้เห็นค่าความแข็งแรงสูงสุด (Ultimate Tensile Strength) ของสเตนเลส ไม่ว่าจะชนิดที่อ่อนตัวง่าย ซึ่งสามารถทำให้ขึ้นรูปเย็นได้ดี เช่น การขึ้นรูปลึก (Deep Drawing) จนถึงชนิดความแข็งแรงสูงสุด ซึ่งได้จากการขึ้นรูปเย็นหรือการทำให้เย็นตัวโดยเร็ว (Quenching) หรือชนิดชุบแข็ง แบบตกผลึก (Preciptation Hardening) ซึ่งเหมาะใช้ทำสปริง

คุณสมบัติของ สแตนเลส

สเตนเลสต่างชนิดกันที่มีโครงสร้างต่างกัน จะมีลักษณะค่าความแข็งแรงที่เปลี่ยนแปลงแตกต่างกันดังในรูปจะแสดงให้เห็น แนวโค้งของค่าความแข็งแรง โดยทั่วไปของเกรดสเตนเลส 4ชนิด

          1. เกรดมาร์เทนซิติก มีค่าความจำนนความแข็งแรง (Yield Strength : YS) และค่าความแข็งแรงสูงสุด (Ultimate Tensile Strenght : UTS) สูงมากในสภาพที่ผ่านกระบวนการอบชุบ แต่จะมีค่าการยืดตัว (Elongation : EL %) ต่ำ

          2. เกรดเฟอร์ริติก มีค่าความจำนนความแข็งแรง และค่าความแข็งแรงสูงสุดปานกลาง เมื่อรวมกับค่าความยืดตัวสูง จึงทำให้สามารถขึ้นรูปได้ดี

          3. เกรดออสเตนิติก มีค่าความจำนนความแข็งแรงใกล้เคียงกับชนิดเฟอร์ริติก แต่มีค่าความแข็งแรงสูงสุดและความยืดตัวสูง จึงสามารถขึ้นรูปได้ดีมาก

          4. เกรดดูเพล็กซ์ (ออสเตไนท์ - เฟอร์ไรต์) มีค่าความจำนนความแข็งแรง และค่าความยืดตัวสูงจึงเรียกได้ว่า เหล็กชนิดนี้มีทั้งความแข็งแรง และความเหนียว (Ductility) ที่สูงเป็นเลิศ

ความต้านทานการกัดกร่อน

เหตุใด? สเตนเลสจึงทนต่อการกัดกร่อนได้ โลหะทุกชนิดทั่วไปจะทำปฎิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ เกิดเป็นฟิล์มออกไซต์บนผิวโลหะ หรือออกไซต์ ที่เกิดบนผิวเหล็กทั่วไป จะทำปฎิกิริยาออกซิไดซ์ และทำให้เกิดสภาพพื้นผิวเหล็กผุกร่อน ที่เราเรียกว่า เป็นสนิม แต่สเตนเลสมีโครเมียมผสมอยู่ 10.5% ขึ้นไป ทำให้คุณสมบัติของฟิล์มออกไซต์บนพื้นผิวเปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นฟิล์มปกป้อง หรือพลาสซิฟเลเยอร์ (Passive Layer) ที่เหมือนเกราะป้องกัน การกัดกร่อน ซึ่งปรากฎการณ์นี้เรียกว่า พาสซิวิตี้ (Passivity) ฟิล์มปกป้องนี้จะมีขนาดบางมาก (สำหรับแผ่นสเตนเลสบางขนาด 1 มม. ฟิล์มหรือพาสซีฟ เลเยอร์นี้ จะมีความบางเทียบเท่ากับวางกระดาษ 1 แผ่น บนตึกสูง 20 ชั้น) และมองตาเปล่าไม่เห็นฟิล์มนี้จะเกาะติดแน่น และทำหน้าที่ปกป้องสเตนเลส จากการกัดกร่อนทั้งมวล หากนำไปผลิตแปรรูปหรือใช้งานในสภาพเหมาะสม เมื่อเกิดมีการขีดข่วน ฟิล์มปกป้องนี้จะสร้างขึ้นใหม่ได้เองตลอดเวลา (ดังรูป)

ความคงทนของพาสซีสเลเยอร์ เป็นปัจจัยหลักของความต้านทานการกัดกร่อนของสเตนเลส นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับสภาพการกัดกร่อนอันได้แก่ ความรุนแรง ของปฏิกิริยาออกซิไดซ์ ความเป็นกรดปริมาณสารละลายคลอไรต์ และอุณหภูมิ โดยทั่วไปแล้วการเพิ่มปริมาณ โครเมียมจะช่วยเพิ่มความ ต้านทาน การกัดกร่อนของสเตนเลส การเติมนิเกิลจะช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนโดยทั่วไป ให้ทนสภาวะกัดกร่อนรุนแรงได้ ส่วนโมลิบดินัมจะช่วยเพิ่ม ความต้านทานการกัดกร่อนเฉพาะที่ เช่น การกัดกร่อนแบบรูเข็ม (Pitting Corrosion)

ในทางปฏิบัติ สเตนเลสชนิดเฟอร์ริติก มีการใช้งานจำกัดในสภาพการกัดกร่อนปานกลางและในสภาพชนบท ทั้งชนิดเฟอร์ริติกและออสเตนิติก สามารถใช้ทำ อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนได้แต่เนื่องจากชนิดออสเตนิติกสามารถทนการกัดกร่อนได้ดี และทำความสะอาดง่าย จึงนิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม นอกจากนี้ชนิดออสเตนิติกยังทนการกัดกร่อนจากสารเคมีหลายประเภทได้แก่ กรด, อัลคาลายด์ เป็นต้น ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย ในอุตสาหกรรมเคมี และกระบวนการผลิตต่าง ๆ

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไป

ผลิตภัณฑ์
ตัวอย่าง
การใช้และข้อควรระวัง
ผงซักฟอก
ผงซักฟอก และสบู่ที่ใช้ในบ้าน
น้ำยาทำความสะอาดกระจก ใช้ล้างสเตนเลสได้เป็นครั้งคราว แต่ต้องล้างออกด้วยน้ำเย็นให้หมด
ยาฆ่าเชื้อ
ในบ้านและในอุตสาหกรรม
ต้องใช้ยาฆ่าเชื้อเจือจาง โดยจำกัดจำนวนครั้งที่ใช้ ต้องล้างออกด้วยน้ำให้สะอาด
สารละลาย
แอลกอฮอล์ และอะเซโทน
สำหรับคราบที่ล้างด้วยสบู่ไม่ออก เช่น สี และคราบมันจากสารอนินทรีย์ จากนั้นล้างด้วยสารละลายแล้วเช็ดออกด้วยสบู่ และล้างออกด้วยน้ำสะอาด
กรดทำความสะอาด
สารละลายทำความสะอาดที่มีส่วนผสม
ของฟอสฟอรัสและไนตริก
เป็นวิธีสุดท้ายที่ควรใช้ทำความสะอาดสเตนเลส ล้างออกด้วยน้ำร้อนหลายๆครั้ง โดยใช้ความระมัดระวัง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญสำหรับการใช ้ที่ถูกต้องและปลอดภัย
ทำความสะอาดโดย ใช้เครื่องมือ
การยิงผิวหน้า, การขัดผิวหน้า,
การขัดด้วยลวด, การใช้ผงขัด
คราบที่ล้างออกยาก ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเชิงกล ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ต้องปลอดออกไซต์หลัก และระวังไม่ให้เกิดคราบขึ้นอีก การใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จะทำให้ พื้นผิวสตนเลสมีการเปลี่ยนแปลง

วิธีทำความสะอาดสำหรับคราบสกปรกทั่วๆ ไป

คราบสกปรก
วิธีการทำความสะอาด
รอยนิ้วมือ
ล้างด้วยสบู่ ผงซักฟอก หรือสารละลาย เช่น แอลกอฮอล์ หรืออาเซโทน ล้างออกด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง
น้ำมัน คราบน้ำมัน
ล้างด้วยสารละลายไฮโดรคาร์บอน / ออร์กานิก (เช่น แอลกอฮอล์) แล้วล้างออกด้วยสบู่ /ผงซักฟอกอย่างอ่อน และน้ำ ล้างออกด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง แนะนำให้จุ่มชิ้นงานให้โชกก่อนล้างในน้ำสบู่อุ่น ๆ
สี
ล้างออกด้วยสารละลายสี ใช้แปลงไนล่อนนุ่ม ๆ ขัดออก แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็คให้แห้ง
Carbob Deposit or Bked-on
จุ่มลงในน้ำ ใช้สารละลายที่มีแอมโมเนียเป็นส่วนประกอบ ล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็ดให้แห้ง
เปลี่ยนสีเนื่องจากความร้อน
ทาครีม (เช่น บรัสโซ) ลงบนแผ่นขัดที่ไม่ได้ทำจากเหล็ก แล้วขัดคราบที่ติดบนสเตนเลสออก ความร้อนขัดไปในทิศทางเดียวกันกับพื้นผิว ล้างออกด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง
ป้ายและ
สติกเกอร์
จุ่มลงในน้ำอุ่น ๆ ลอกเอาป้ายออกแล้วถูกาวออกด้วยเบนซิน ล้างออกด้วยสบู่และน้ำจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำอุ่น เช็คให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ
รอยน้ำ / มะนาว
จุ่มลงในน้ำส้มสายชูเจือจาง (25%) หรือกรดไนตริก (15%) ล้างให้สะอาด ล้างออกด้วยสบู่และน้ำ จากนั้นล่างให้สะอาดด้วนน้ำอุ่น เช็คให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ
คราบชา – กาแฟ
ล้างด้วยโซดาไบคาร์บอเนต ในน้ำ ล้างออกด้วยสบู่และน้ำ จากนั้นล้างให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น เช็คให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ
คราบสนิม
จุ่มในน้ำอุ่นที่มีส่สนผสมสารละลายกรดไนตริก ในอัตราส่วน 9 ต่อ 1 ประมาณครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง ล้างออกด้วยน้ำให้สะอาด หรือล้างผิวด้วยสารละลายกรดออกชาลิค ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็คให้แห้งหรือต้องใช้เครื่องมือล้างหากคราบสนิมติดแน่น

ความรู้และเทคนิค

ควรทำ
ไม่ควรทำ
เมื่อไม่ได้มีการทำความสะอาดสเตนเลส อย่างสม่ำเสมอ เมื่อสังเกตเห็นคราบหรือฝุ่นละอองใด ๆ ต้องรีบทำความสะอาดทันที
ไม่ควรเคลือบผิวสเตนเลสด้วยแว็ก หรือวัสดุที่ผสมน้ำมัน เพราะจะทำให้คราบสกปรกหรือฝุ่นละอองติดบนพื้นผิวได้ง่ายขึ้น และล้างทำความสะอาดออกได้ยาก
การทำความสะอาดสเตนเลส ควรเริ่มจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่อ่อนที่สุด โดยเริ่มใช้ในบริเวณเล็ก ๆ ก่อนเพื่อดูว่าเกิดผลกระทบอะไร กับผิวสเตนเลสหรือไม่
ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่มีส่วนประกอบของคลอไรด์และฮาไลด์ เช่น โบรไมน์, ไอโอดีนและผลูออรีน
ใช้น้ำอุ่นล้างคาบความมันออก
ไม่ควรใช้ยาฆ่าเชื้อในการทำความสะอาดชิ้นส่วนสเตนเลส
หมั่นล้างสเตนเลสด้วนน้ำสะอาด เป็นขั้นตอนสุดท้ายเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม หรือกระดาษชำระ
ไม่ควรใช้กรดไฮโดรคลอริก (HCI) ในการทำความสะอาด เพราะอาจก่อให้เกิดการกัดกร่อน แบบรูเข็ม และการแตกเนื่องจากความเครียด (Stress Corrosion Crocking)
เมื่อใช้กรดกัดทำความสะอาดสเตนเลส ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เราไม่แน่ใจ
หลังจากใช้เครื่องครัวที่ทำด้วยสเตนเลส ควรล้างให้สะอาดทุกครั้ง
ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดเครื่องเงิน ในการทำความสะอาดสเตนเลส
หลีกเลี่ยงคราบ/สนิมเหล็ก ที่อาจติดมากับอุปกรณ์ทำความสะอาด ที่ทำมาจากเหล็ก หรือใช้ทำความสะอาดชิ้นส่วนเหล็กกล้าคาร์บอน
ไม่ควรใช้สบู่ หรือผงซักฟอกมากเกินไป เพราะจะทำให้ผิวสเตนเลสมัวและหมองลง
ในกรณีที่ประสบปัญหาในการทำความสะอาด
สเตนเลสควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ไม่ควรทำความสะอาด และทำพาสซิเวชั่นในขั้นตอนเดียวกัน ควรทำตามขั้นตอน คือ ล้างก่อนแล้วค่อยทำพาสซิเวชั่น


เอกสตีล คลอง 8

ความคิดเห็น

  1. 21
    ดวงเดือน
    ดวงเดือน duan_2522@hotmail.com 30/05/2008 19:03
    ถ้าอยากจะได้ ล้อไนล่อน ขาสแตนเลส 316L พอจะหาซื้อได้จากที่ไหนค่ะ ติดต่อ บริษัท ยูนีซัน จำกัด 0-23291020-5 ต่อ 158 เดือนค่ะ
  2. 22
    อ้น
    อ้น 07/08/2008 21:06
    {icone288} {icone298} {icone322} {icon5}
  3. 23
    กฤษณุลักษณ์
    กฤษณุลักษณ์ tum605@dnp.go.th 22/08/2008 22:51
    ซื้อกระติกน้ำสแตนเลสมาแต่ไม่เก็บความร้อนเลยเป็นเพราะอะไร ใครช่วยตอบหน่อยนะค่ะ แล้วนำมาใส่น้ำรับประทานได้หรือเปล่า เป็นอันตรายไหม ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ E-mail tum605@dnp.go.th {icon10} {icone318} {icone318}
  4. 24
    tiva
    tiva 12/09/2008 11:55
    ขอบคุณครับสำหรับการให้ความรู้ทุกกระทู้ {icon1} {icon10}
  5. 25
    victor_tower23
    victor_tower23 14/09/2008 13:02
    ขอบคุณน่ะค่ะ {icon3}
  6. 26
    ft
    ft 01/12/2008 10:22
    แหวนสแตนเลสกับแหวนเงินต่างกัลตงไหน
  7. 27
    สมถุย
    สมถุย deaw_mt50@hotmail.com 18/01/2009 12:26
    อยากทราบถึง

    สแตนเลสมีกี่ชนิด

    อะไรบ้าง
  8. 28
    ทินกร
    ทินกร tinnakon_za@hotmail.com 07/05/2009 15:08
    อยากรู้ราคาแผ่นสเตนเลสจัง หนา 0.5,0.7,1 มิล
  9. 29
    มงคล
    มงคล 20/05/2009 13:26
    ดีจริงๆ บทความสแตนเลสอันนี้ ขอบคุณครับ
  10. 30
    แอ๊ว
    แอ๊ว 24/05/2009 11:45
    Grade 403 เป็น stianless ที่ไม่มีนิกเกล ผสมอยู่
    แต่ว่ามันมีเกรดนี้จริงใช่มั้ยคะ แล้วถ้าเป็นเศษสแตนเลสเกรดนี้มีใครรับซื้อรึเปล่าคะ อยากได้ความรู้ตรงนี้ค่ะ

    แอ๊ว {icone226}
  11. 31
    จันทร์นิภา
    จันทร์นิภา jannipa_sadangrit@kapook.co.th 13/08/2009 21:01
    มีแค่นี้หรืออยากอ่านต่อจัง {icon2} {icon6} {icon5} {icone219} {icone224} {icone223} {icone223} {icone223} {icone269} {icone307} {icone323} {icone279} {icone282} {icone240} {icone250} {icone269} {icone285} {icone284} {icone256} {icone286} {icone262} {icone262} {icone261} {icone281} {icone320} {icone319} {icone321} {icon3} {icon10} {icon8} {icon6} {icon13} {icon11}
  12. 32
    สิงห์
    สิงห์ 20/08/2009 22:44
    ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร นะ ถ้าสแตนเลสไม่มีนิเกลจะเรียกว่าสแตนเลสหรือ งงๆ {icone216} {icone219}
  13. 33
    KuNg2
    KuNg2 toekung225@hotmail.com 26/08/2009 01:17
    รับทำงานสแตนเลสทุกชนิดฮะ
    นี้ราคาดูเอา 06/08/2009

    ขนาด แป็บ STL เงา (201) ฟอร์จูน ขนาด แป๊บSTLเงา(304) คริสตัน
    1.0 1.2 1.0 1.2
    1/2" 143 174 1/2" 255 311
    3/4" 220 268 3/4" 393 482
    1" 299 366 1" 533 657
    1 1/4" 378 459 1 1/4" 670 830
    1 1/2" 453 552 1 1/2" 805 989
    2" 608 742 2" 1080 1328
    2 1/2" - 958 2 1/2" - 1760
    3" - 1153 3" - 2066
    ขนาด แป็บ STL เงา (202)/ฟูจิ แป๊บ STL เงา เกลียว 304 ราคาขาย
    1.0 1.2 1.0
    3/8" 1/2" 345
    1/2" 207 252 3/4" 483
    3/4" 319 388 1" 623
    1" 434 531
    1 1/4" 546 670
    1 1/2" 657 808
    2" 880 1073
    2 1/2" - 1385
    3" - 1667
    4" - -
    แป๊บ STL เงา (304) ไทยเยอรมัน-วิจิตราภรณ์-เกรท-ไทยยูนิคอย
    ขนาด 1.0 1.2 1.5 2.0
    1/2" 272 325 -
    3/4" 430 503 -
    1" 548 672 943 1205
    1 1/4" 682 839 1153 1565
    1 1/2" 827 1013 1464 1885
    2" 1153 1359 1943 2529
    2 1/2" - 1627 2405 3140
    3" - 2098 2919 3985


  14. 34
    ปฏิพัทธ์
    ปฏิพัทธ์ tode21@truemail.co.th 14/09/2009 23:18
    อยากได้รายละเอียดของเกรดสแตนเลสครับ และวิธีการทดสอบแบบง่ายๆครับ...ขอบคุณนะครับ
  15. 35
    เล็ก
    เล็ก 14/10/2009 12:41
    มีน้ำยาสำหรับtest เกรดสแตนเลสระหว่างเกรด SS.304และ 316 ขายค่ะสนใจติดต่อ 086-6608088
  16. 36
    ศรัญญา
    ศรัญญา joybusiness@ymail.com 20/10/2009 14:06
    การทดสอบเกรดสแตนเลสสามารถทดสอบด้วยวิธีง่ายๆอีกวิธีหนึ่ง คือ การใช้น้ำยา Test เกรดสแตนเลสทดสอบ
    โดยน้ำยาชนิดนี้จะทำปฏิกริยากับส่วนผสมของสแตนเลส คือหากเป็นเกรดสแตนเลส 316 จะมีส่วนผสมของ Molybdenum แต่หากไม่ใช่เกรด 316 แต่เป็นเกรด 304 แท้หรือไม่แท้ก็ตาม ก็จะปรากฏค่าการทดสอบแสดงให้เห็นทันที ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและให้ผลได้ชัดเจนวิธีหนึ่งและน้ำยาชนิดนี้ก็ได้รับการยอมรับจากทั่วไป ที่ผ่านน้ำยาชนิดนี้จะต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาแต่ปัจจุบันได้มีจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว หากสนใจน้ำยา test ติดต่อ 086-6608088
  17. 37
    pi
    pi joub_me05@hotmail.com 04/01/2010 22:11

    พี่คับสแตนเลส 316 L หนา 1.5 mm เท่าไรครับ

  18. 38
    Wirat
    Wirat Wirat.ttt@hotmail.com 12/01/2010 09:39

    ผมเชื่อมสแตนเลสเกรด 201ใช้กระแสไฟ 60,75,90A เชื่อมทับกัน 3 แนว ทำไมโครเมียมคาร์ไบด์จึงไม่ค่อยเกิดเลยครับ ใครรู้บอกผมดัวย (กำลังทำProject) อยากทราบมากครับ






    วิรัตน์

  19. 39
    l3abaouu
    l3abaouu ouu02@hotmail.com 04/03/2010 16:45

    ที่เค้าเรียกว่า A270 กับ 3Aนั้นคืออะไรครับบอกที

  20. 40
    pp
    pp ple@iclmagnet.com 14/06/2010 18:04

    สแตนเลส 304 และ 316 ทนสารละลายอะไรได้บ้าง

[Back]   1 2  3  4 [Next]

แสดงความคิดเห็น

* *

 

*

view